บริษัทนานาชาติมักทำงานด้วยความซับซ้อนที่มากกว่า ซึ่งความซับซ้อนทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นอย่างมาก รวมไปถึงโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด ดังนั้นการมีระบบ SAP ที่สามารถปรับให้เข้ากับความซับซ้อนเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีส่วนช่วยอย่างมาก

ในสถานการณ์แบบนี้ การทำงานกับระบบ SAP ERP ที่มีระบบ 2 ชั้น ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

มีตัวอย่างจากลูกค้า SAP รายหนึ่งที่ใช้ระบบ ERP ที่แตกต่างกัน 32 แห่งทั่วโลกสำหรับตำแหน่งดาวเทียมและศูนย์การผลิต ความจริงก็คือความแตกต่างที่เกิดขึ้นในแต่ละแห่งก็ต้องการวิธีการแก้ปัญหาจาก ERP ที่แตกต่างกันไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อกับศูนย์กลาง

การที่มีระบบ ERP ที่แตกต่างกัน 32 แห่งทั่วโลกอาจดูเหมือนเป็นทางเลือกที่จำเป็นสำหรับการจัดการธุรกิจที่แตกต่างกัน เช่น โรงงานผลิตกับสำนักงานขายและสิ่งต่างๆในกระบวนการดังกล่าว อย่างไรก็ดี การมีระบบได้ขาดการเชื่อมต่อออกจากกันเป็นจำนวนมากก็ทำให้องค์กรเกิดความท้าทายเป็นอย่างมาก  

การบำรุงรักษาอาจเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะมุมมองจากฝั่งศูนย์กลาง เมื่อต้องพยายามประสานระบบต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย และความแตกต่างด้านภาษา เขตเวลา และข้อมูลที่ขาดหายไป อาจทำให้ระบบที่แยกส่วนเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้นไปอีก

กุญแจสำคัญในการประสานระบบที่หลากหลายเหล่านี้เข้าด้วยกัน คือการออกแบบระบบให้มีหลายชั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในด้านการใช้งานระบบ SAP ERP จะสามารถช่วยคุณได้

ระบบ SAP ERP แบบ 2 ชั้น คืออะไร?

โซลูชั่นแบบ 2 ชั้น หมายถึงการปรับใช้ระบบ ERP ขนาดใหญ่ขึ้นที่ศูนย์กลาง และใช้ระบบ ERP ที่มีขนาดต่างๆ กันในสถานที่อื่นๆ เช่นระบบ SAP B1 หรือ S/4HANA Public Cloud การเลือกใช้ภูมิทัศน์ที่แตกต่างกันในการดำเนินงานแบบรวมศูนย์จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อบริษัท เนื่องจากระบบต่างๆ ทำงานภายใต้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งมีการคำนึงถึงการบูรณาการของระบบไว้แล้ว

เวลาและทรัพยากรที่จำเป็นในการใช้งานระบบ ERP ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอาจไม่เหมาะสำหรับบริษัทในเครือในด้านต้นทุน เช่น ธุรกิจขนาดเล็กที่มีเพียง 15 คนนั้นจะต้องใช้งานทรัพยากรจำนวนมากไปกับระบบ ERP ขนาดใหญ่ และทำให้ต้นทุนนั้นสูงมากเกินกว่าที่จะรับได้

แต่ก็มีบริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบริษัทนานาชาติที่เลือกที่จะทำงานแบบโครงสร้างแบบ 2 ชั้น ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของระบบ ERP ไปอย่างสิ้นเชิง การมีกลยุทธ์แบบ 2 ขั้นสำหรับพวกเขานั้นจะทำให้เกิดประสิทธิภาพที่มากกว่า โดยเฉพาะหากพวกเขานั้น พยายามที่จะเติบโต

ข้อกังวลหลักสามประการของธุรกิจระหว่างประเทศที่สามารถแก้ไขได้ด้วยระบบองค์กร 2 ชั้น มีดังนี้:

ภาษา

บริษัทนานาชาติที่ทำงานในประเทศที่แตกต่างกันอาจต้องเจอกับอุปสรรคทางด้านภาษาได้ หากการขยายกิจการนั้นเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ อาจเป็นการยากสำหรับบริษัทแม่ที่จะทำความเข้าใจในระบบ ERP เดิมหรือในการรวมระบบเข้าด้วยกัน

บริษัทที่ต้องการขยายออกไปสู่ต่างประเทศ ควรจะต้องเตรียมการรับมือกับความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมด้วย การทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีสำนักงานอยู่ในแต่ละประเทศ ที่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษานั้นจะช่วยให้การใช้และจัดการระบบเป็นไปได้ง่ายขึ้น

เวลา

การใช้งานโซลูชั่นขนาดใหญ่ขึ้นก็หมายถึงเวลาที่ใช้ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าธุรกิจนั้นมีแผนกลยุทธ์อยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะทำให้เกิดการหยุดชะงักได้ ดังนั้นแทนที่จะติดตั้งระบบ ERPใหม่ทุกครั้ง การมีระบบที่ออกแบบมารองรับการรวมระบบในทุกมิติ
จะสามารถ ช่วยประหยัดเวลาและเงินได้อย่างมาก ในอนาคต

ปัญหาอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับเวลา คือจำนวนเขตเวลาที่แตกต่างกันทั่วโลก การที่มีตำแหน่งดาวเทียมในเขตเวลาที่แตกต่างกันก็หมายถึงการที่พนักงานอาจไม่ได้ทำงานในเวลาเดียวกันกับฝ่าย IT ของส่วนกลางหรือพันธมิตรที่มีขนาดเล็กกว่า หากมีปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบ ERP

เมื่อทำงานภายใต้ระบบเดียวกัน ฝ่าย IT จากส่วนกลางหรือพันธมิตรจะสามารถเข้าถึงและทำการแก้ปัญหาดังกล่าวได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน เวลาถือเป็นสิ่งสำคัญเสมอในการลดต้นทุน ซึ่งระบบ 2 ชั้นก็จะสามารถช่วยสิ่งนี้ได้เช่นกัน บริษัทที่ทำการขยายออกไปสู่ประเทศใหม่ๆ อาจต้องเสียเวลาเป็นอย่างมากในการจัดการและตั้งค่าในระบบ ERP ใหม่เพื่อให้สามารถทำการสื่อสารกับส่วนกลางได้

ทำไมจะต้องเสียเวลาเหล่านั้นด้วยในเมื่อ [ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้งานระบบ SAP] สามารถช่วยออกแบบระบบที่สามารถรองรับสถานที่ใหม่ได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน

ความสามารถในการแข่งขันในท้องถิ่น

องะหว่างค์กรรประเทศจำนวนมากเกิดปัญหาที่จะสร้างความสามารถในการแข่งขันในท้องถิ่นของประเทศใหม่ โดยเฉพาะในตอนเริ่มแรก ซึ่งการศึกษาและประสบการณ์ทีมีก็อาจมีความแตกต่างเช่นกัน

เมื่อต้องทำงานภายใต้ระบบ ERP ที่เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะกับระบบเดิม ทำให้อาจเกิดปัญหาในการบูรณาการได้

นอกจากนี้อาจยังมีปัญหาในด้านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและความพร้อมในการใช้งาน ซึ่งทำให้การใช้ระบบแบบ 2 ชั้นเกิดความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นไปอีก

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเลี่ยนไปใช้ระบบ SAP แบบ 2 ชั้น

ในท้ายที่สุดแล้ว การทำงานภายใต้ระบบแบบ 2 ชั้น จะดีที่สุดสำหรับธุรกิจข้ามชาติ เพราะจะทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ บริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่ทำงานในเขตเวลาที่แตกต่างกัน และปัญหาในด้านความสามารถในท้องถิ่น ต่างก็เห็นว่าระบบภายใน SAP Business One หรือ S/4HANA Public Cloud ที่เป็นระบบ ERP แบบ 2 ชั้น นั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยม

พันธมิตรในการติดตั้งระบบ SAP ในระดับสากลอย่าง be one solutions จะสามารถช่วยในการออกแบบและวางระบบแบบ 2 ชั้นได้ ซึ่งจะสามารถประหยัดเวลาและเงินของคุณได้อีกด้วย ติดต่อเราได้เลยวันนี้

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ be one solutions